บทความนี้ผมอยากเขียนขึ้นมา เพื่อแนะนำและเผื่อแผ่ข้อคิด สำหรับคนที่คิดอยากจะเพิ่มช่องทีวีที่บ้านของท่านให้มากขึ้น โดยเซฟค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด
ด้วยที่บ้านผมเองนั้น ถูกกฎเหล็กจากคุณแม่ที่ห้ามติดเคเบิ้ลทีวีที่ต้องเสียรายเดือน ฉะนั้น UBC หรือ TrueVision นั้นลืมไปได้เลยที่จะติด เพราะแม่เป็นคนที่ไม่ชอบซื้อของอะไรที่ต้องมาเสียเงินภายหลังอีก เมื่อก่อนนี้ก็ยังทนๆดูฟรีทีวีอยู่ 6 ช่อง ต่อมาเริ่มมีการติดเสารับสัญญาณทีวีเพิ่มมาอีก 3ช่อง ของไททีวี ก็ได้ช่องเพิ่มมาคือ Nation Channel และอีก 2 ช่อง (ตอนนี้ใช้ชื่อช่องว่า KTTV1 และ KTTV2) ช่องเนชั่น ก็ดีหน่อยที่มีข่าวคุณภาพให้ดูตลอด 24 ชั่วโมง แต่อีก2 ช่องที่เหลือไม่ค่อยมีอะไรให้ดูเท่าไร แต่ดูๆไปซะอีก 4-5 ปีมันก็เริ่มจะเบื่อๆอีกแล้ว อยากจะได้ช่องทีวีเพิ่มจริงๆ เลยมาศึกษาข้อดึ ข้อเสีย ประเภทของจานดาวเทียม, เคเบิ้ลท้องถิ่น , TrueVision(ผมเรียกว่าเคเบิ้ลแห่งชาติ)
จนแถวบ้านผมเริ่มมี เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นมาติดป้ายโฆษณาอย่างต่อเนื่องซักพัก ทีนี้ผมเลยเอาโบร์ชัวมาดู เปรียบเทียบช่องทีวีกันว่าใครมีมาก มีน้อย กว่ากัน ระหว่างเคเบิ้ลท้องถิ่น บอกว่ามี 80 ช่อง ราคา 350 บาท , TrueVision ที่มีหลายแพ็คเกจ ตั้งแต่ FreeView(เอาไว้ล่อเหยื่อ) และก็แพ็คเกจเสียตังค์ทั้ง Knowledge,Silver, Gold จนกระทั้ง Platinum , และไปสำรวจร้านขายจานดาวเทียมทั้งหลายบริเวณใกล้ๆบ้าน เอาใบปลิว โบร์ชัวมานั่งศึกษา ทุกอย่าง
ทีนี้ก็พอรู้ๆกันบ้างแล้วว่า ส่วนมากเคเบิ้ลท้องถิ่นนั้น คือการเป็นตัวที่รวบรวมช่องทีวีเจ๋งๆของดาวเทียม แต่ละดวง มารวมกันแล้วเดินสายเคเบิ้ลตามถนนที่มีหมู่บ้านมากๆ และประกาศขายสมาชิก คิดค่าบริการเป็นรายเดือน อาจจะมีค่าแรกเข้าบ้าง ซัก 500-1000 บาทโดยประมาณ(แล้วแต่เจ้า) ทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก กับค่าบริการรายเดือนซึ่งอยู่ในช่วง 250 – 400 บาท/เดือน โดยประมาณ ก็เป็นช่องทางที่น่าสนใจ (เพราะไม่ต้องลงทุนเรื่องจานดาวเทียมและเครื่องรับสัญญาณ) แค่เดินสายเข้ามาในบ้าน
แต่สำหรับผมต้องการมากกว่าความบันเทิงทั่วๆไป เลยลงทุนศึกษาเอาแบบละเอียดเลยซึ่งใช้เวลาอยู่หลายสัปดาห์ทีเดียว โดยเกือบทั้งหมดก็สืบเสาะหาความรู้ไปเรื่อยๆจากเว็บขายจานดาวเทียมของร้านต่างๆนี้แหละ มีหลายๆร้านที่ทำเว็บขายจานและยังมีเทคนิค หรือให้ความรู้กับลูกค้าด้วย ซึ่งอันนี้ผมขอชื่นชมผู้ทำเว็บและเจ้าของกิจการที่ไม่ได้หวังแต่จะขายของท่าเดียว ผมศึกษาและเรียนรู้ศัพท์เทคนิคต่างๆของจานดาวเทียม ทั้งทีก่อนหน้านี้ไม่มีความรู้เลย เช่น ระบบ C-Band, KU-Band มันต่างกันยังไง แต่ละระบบมีข้อดี ข้อด้อยอะไรบ้าง ศึกษาว่าดาวเทียมแต่ละดวง มีช่องทีวีอะไรบ้าง เป็นรายการประเภทไหน ก็พอจะแยกออกมาได้ว่าทั่วๆไปมีคือมี 2 แบบได้แก่
1. จานดำ หรือจานใหญ่ที่คล้ายๆตะแกรง จานแบบนี้จะรับสัญญาณระบบ C-Band เช่นจากดาวไทยคม2/5 และจากอื่นๆอีกหลายดาวเทียม ข้อดีของระบบนี้คือเวลาฝนตก ภาพไม่หาย สัญญาณยังรับได้ดีอยู่ ย่าน C-Band นั้น การกระจายสัญญาณของดาวเทียมจะค่อนข้างกว้างมาก รับชมได้หลายประเทศในโซนเดียวกัน แต่ความแรงของสัญญาณจะน้อยกว่า ข้อเสียคือจานมีขนาดใหญ่เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่เหมาะสมเท่านั้น ห้องพักหรือคอนโดอาจจะมีปัญหาได้ แต่ข้อดีอีกอย่างคือสามารถใส่มอเตอร์ทำเป็น จานMove ได้ ทำให้รับสัญญาณได้จากดาวเทียมหลายๆดวง (แบบนี้แหละที่ผมเลือก)
สรุปสำหรับระบบ C-Band จานดำ ข้อดีนั้นรับรายการทีวีได้จากทั่วโลก ไม่ต้องมีค่าบริการรายเดือน ไม่มีข้อจำกัดด้านภูมิอากาศ
ข้อเสีย คือจานมีขนาดใหญ่ ต้องหาพื้นที่เหมาะสมในการติดตั้ง และหากจะเพิ่มเครื่องรับมากกว่า1 เครื่อง อาจจะต้องมองหาจานที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมตามเครื่องรับที่ต้องการ
2. จานทึบ เช่นจานแดงTrueVision ,จานเหลืองของ Dtv, จานส้มของ IPM, จานฟ้าของ Samart จานประเภทนี้จะรับสัญญาณในระบบ KU-Band มีความแรงในการส่งสัญญาณสูง จานจึงมีขนาดเล็ก ติดตั้งได้ง่าย พวกระบบเคเบิ้ลทีวีมักใช้รูปแบบนี้ แต่ข้อเสียคือหากฝนตก สัญญาณภาพจะหายไปเร็วมาก ใครเคยดูTrueVision จะรู้ดีบางทีแค่ฟ้าครึมๆ มันก็ทำให้ภาพเลือนไปเยอะแล้ว ส่วนมากในเมืองไทยรับสัญญาณ Ku-Band มาจากดาวเทียม NSS6และ Thaicom-KU ซะส่วนใหญ่
คร่าวนี้พอเลือกประเภทจานได้แล้ว ก็มาพิจารณากันต่อว่าเราจะต่อดูกับทีวีกี่เครื่อง? จะยากเครื่องรับสัญญาญหรือเครื่องReceiverไหม ถ้าแยกก็ทำให้ทีวีแต่ละเครื่องเป็นอิสระต่อกันใครจะดูช่องไหนก็ใช้รีโมทเปลี่ยนได้ตามใจชอบ แต่ต้องพิจารณาในเรื่องจำนวนเครื่องรับด้วยว่าจะมีกี่เครื่อง เพราะยิ่งมากเครื่อง ขนาดของหน้าจานจะต้องมากขึ้นด้วย(อันนี้เฉพาะจานดำนะ)
แต่ผมขอมาเชียร์ให้ติดจานดำ ดีกว่าเพราะมีทางเลือกและมีช้อยให้เลือกมากมาย แถมถ้าเป็นจานมูฟด้วย ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่มีช่องให้เลือกดูมากมาย เพราะแต่ละดาวเทียมก็จะมีช่องรายกายที่หลากหลาย บางทีเป็นดาวเทียมของประเทศเพื่อนบ้านเรา ก็ทำให้มีรายการเด็ดๆที่ทีวีไทยไม่มีให้ดูอีกด้วย ยี่ห้อจานดำก็มีให้เลือกกันหลากหลาย เช่น ยี่ห้อ PSI, DynaSat, Ideachan
และการเลือกยี่ห้อเครื่องรับสัญญาณหรือ Receiver ก็สำคัญเพราะแต่ละเครื่องก็มีคุณสมบัติต่างๆกันไป บางเครื่องสามารถอัพเดทช่องรายการได้เอง บางเครื่องสามารถรับช่องรายการพิเศษของตัวเองได้ เช่นของ IPM หรือของ Dtv, บางเครื่องมีฟังค์ชันสั่งอัดรายการทีวีแล้วถ่ายใส่แฟลชไดร์ได้ด้วย
และสุดท้าย อย่าลืมเลือกร้านที่จะซื้อด้วย หาร้านที่ไว้ใจได้ มีช่างที่ชำนาญการ เจ้าของรู้เรื่องดีๆ สามารถตอบคำถามได้ทางโทรศัพท์ ให้คำแนะนำเราได้ ตรงนี้ผมต้องขอย้ำเพราะว่าประสบการณ์ของตนเองที่ได้ลองไปติดต่อร้านขายจานระแวกบ้านตัวเอง ปรากฎพบว่ามีอยู่ 3 ร้าน ร้านแรกเป็นร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างเลย และขายจาน(เป็นตัวแทนย่อยอีกทีมั่ง) ถามอะไรไปก็ตอบไม่ค่อยได้เลย คนขายรู้แต่ว่ารับช่องนั้นได้ช่องนี้ได้ ผมลองใส่คำถามเชิงเทคนิคกับคนขาย ก็ตอบไม่ได้ ก็เดินออกเลยจบ ส่วนอีก2 ร้าน เป็นร้านเล็กๆอยู่ในตึกแถว 1คูหา เสียดายตอนไปที่ร้านเจอแต่เถ้าแก่ ผมก็ลองถามไปเรื่อยๆ พอถามยากขึ้นหน่อยก็ไม่ค่อยรู้ซะแล้ว และอีกอย่างตัวเลือกของสินค้ามีน้อยไปหน่อย ไม่เหมือนร้านในเน็ตบางร้าน มีทางเลือกให้ลูกค้ามากมาย แถมราคาเมื่อเทียบกันแล้วราคาร้านในเน็ตมักจะถูกกว่าซะด้วย
สุดท้ายผมเลือกซื้อชุดจานดาวเทียม ขนาด 7.5′ ของDynasat + เครื่องรับ IPM+มอเตอร์หมุนจาน+LNB C-KU band ของร้านค้าร้านหนึ่งในเน็ต ซึ่งก็ไม่ได้ใกล้บ้านผมนัก แต่ร้านนี้เขาให้ข้อมูลลูกค้าที่ละเอียดมากๆ ทำเว็บออกมาได้ดี มีบทความเรื่องจานดาวเทียมให้ลูกค้าอ่านจนเราเชื่อใจได้ว่า ร้านนี้น่าเชื่อถือ มีความรู้จริง พอติดต่อไปก็ค่อนข้างตอบสนองลูกค้าได้ดีเสียด้วย เลยได้ตกลงใจซื้อของเขามา
ผมมองว่าช่วงนี้คือโอกาศทองของคนดูทีวีดาวเทียม เพราะปัจจุบันถ้าสังเกตุดูจะเห็นได้ว่า มีบริษัทหลายๆแห่ง ออกช่องทีวีของตัวเองขึ้นมา เพื่อให้ช่วยกระจายข่าวสารให้กับลูกค้าของตน และหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าโฆษณาราคาสูงลิ่ว ให้กับเหล่าฟรีทีวี ที่นับวันราคาค่าโฆษณาต่อนาทียิ่งสูงขึ้นๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในตอนนี้ก็เช่น GMM Grammy มาทำช่องทีวีดาวเทียมแล้ว 4 ช่อง ได้แก่ Fan TV(รายการเพลงลูกทุ่ง) BANG Channel(รายการเพลงสตริง-คอนเสริ์ตร็อค) Green Channel(เพลงเก่า,เพลงสบายๆ,ถ่ายสดแฉแต่เช้า) ACTS Channel(ละครซิทคอมและละครเก่าๆของซิเนริโอ) และได้ยินว่าเร็วๆนี้จะมีช่อง Bird Channel(สำหรับพี่เบิร์ดโดยเฉพาะมั่ง)
ทางบริษัท RS ก็ออกมา 2 ช่องแล้วเหมือนกันคือ You Channel (เพลงวัยรุ่น-วาไรตี้) และ สบายดี ทีวี (ช่องเพลงลูกทุ่งของ RS)
ทางบริษัทสหมงคลฟิล์ม ก็มาทำช่อง มงคล แชนแนล เอาหนังเก่าๆของค่ายมาฉาย24ชั่วโมง พร้อมกับโฆษณาหนังใหม่ๆของค่ายที่กำลังจะเข้าฉาย
ทางเครือสหพัฒน์ เจ้าของเครือสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ของไทย ก็ยังมาทำช่อง S Channel ถ่ายหนังแอคชั่นผสมกับโฆษณาสินค้าของบริษัทตัวเอง
และในอนาคตคาดว่าจะมีช่องทีวีดาวเทียม แบบ Free to Air ออกมาอีกมากมาย ซึ่งผมก็มองว่าเป็นการหาทางออกที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะบริษัทมีสินค้ามากมายหากต้องเสียเงินจ่ายให้กับฟรีทีวีเพื่อโฆษณาทั้งหมดก็คงแย่แน่ พอมาทำช่องทีวีดาวเทียมส่วนตัว คร่าวนี้ก็สามารถโฆษณาได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องไม่มากไปจนลูกค้าเปลี่ยนช่องหนีเสียหมด ต้องมี Content ที่มีสาระหรือความบันเทิงมาใส่ให้คนดูได้บริโภคด้วย ต่อไปนี้ก็เป็นสวรรค์ของคนดูทีวีละ ที่จะสามารถเลือกบริโภคข้อมูลได้ตามความต้องการ ไม่ต้องมาเซ็งกับช่องฟรีทีวีที่มีรายการที่ไม่อยากดู
เครดิตรูปภาพจาก www.satduo.com และ www.psi.co.th
อยากได้รายละเอียดการตั้งความถี่ ช่องต่างๆ ของ จานดำ C-Band ครับ เพราะ มีบางช่อง ที่รับสัญญาณไม่ได้เลย ขอความกรุณาอนุเคราะห์แนะนำด้วยครับ
ขอบคุณมาก
ขอโทษด้วย เรื่องเชิงเทคนิค นี้ผมไม่ทราบจริงๆ การปรับตั้งค่าความถี่จานซีแบนด์ ถ้าเครื่องรับสัญญาณไม่มีระบบ OTA หรืออัพเดทช่องให้อัตโนมัติ คงต้องติดต่อช่างของร้านที่ไปซื้อมาแล้วละคับ เพราะแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ก็ปรับแต่งค่าต่างกันอีก ช่วงนี้จาน C-band มีการเปลี่ยนความถี่ช่องหลายช่อง และมีการเปลี่ยนจากไทยคม2 ไปเป็นดาวไทยคม 5 อีก
เข้ามาอ่านเก็บเกี่ยวความรู้เรื่องจานดาวเทียม
เขียนได้ดี ขอบคุณมาก ๆ ครับ
Live TV ให้ดูฟรีผ่านจาน C-Band
ผมติดจานแล้วครับ แต่อยากสมัคร Live TV ต้องทำยังไงครับของผมรุ่น S-9 ครับขอคำชี้แนะหน่อยน่ะครับ