รีวิว ชาเขียว OISHI รสพีช

วันนี้ได้โอกาสลองชิม ชาเขียวโออิชิรสใหม่ครับ รสพีช (Peach) นั้นเอง
ก็ไม่มีอะไรมากครับ รสชาติก็ออกรสพีชหอมอ่อนๆนั้นแหละ (เพราะว่ามันเป็นกลิ่นรสที่เติมลงไป)

OISHI peach

OISHI peach

อยากให้มีรสไหน ก็ไปหากลิ่นรสนั้นมาใส่ ก็ไม่ยากเย็นอะไร
ส่วนการออกแบบแพจเกจจิ้ง ขวดรสพีชนี้ ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวครับ ใช้ลักษณะเหมือนการเพ้นท์สี ทำให้ฉลากออกมาดูสีอ่อนๆกลมกลืนกันดีระหว่างรูปผลพีชกับแบ็คกราว ดูแล้วน่าลิ้มลองในรสชาติดี

ประเด็นหนึ่งที่อยากเล่าก็คือ ชาเขียว OISHI เองก็เป็นสินค้าอุปโภคที่เป็นแมสไปแล้ว การกระตุ้นตลาดให้คนไม่ลืมแบรนด์
สิ่งหนึ่งที่มักทำกัน ก็คือการออกรสชาติใหม่ๆนั้นเอง ซึ่งสินค้าอื่นๆก็ทำกัน ยกตัวอย่างเช่น มาม่า และ เลย์ ที่เห็นว่ามักจะมีการพัฒนารสชาติ
ใหม่ๆออกมาอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้เหตุผลหลักก็คือ
1. ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้า แบรนด์นี้ไม่เงียบจนเกินไป มีอะไรใหม่ๆออกมาตลอด
2.ทำให้ลูกค้าขาประจำที่ชื่นชอบแบรนด์นั้นอยู่แล้ว ทำให้เกิดการทดลองซื้อรสชาติใหม่ๆไปลองชิมบ้าง (เปลี่ยนบรรยากาศ)
ถึงแม้สุดท้าย Loyalty customer จะกลับไปดื่มรสชาติเดิมๆที่คุ้นเคยก็ตาม
3. ทำให้ลูกค้าประเภทที่ยังไม่ Loyalty ในแบรนด์ ลองซื้อมากินเช่นกัน (เช่นผมเป็นต้น เจ้าไหนออกใหม่ก็ลองซื้อชิมไปหมด)

ถ้าสังเกตุจะเห็นว่า OISHI พยายามออกรสชาติใหม่ๆมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้แบรนด์เงียบเกินไป บางรสชาติก็มีขายแค่บางช่วงเวลาเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น รสกุหลาบ ที่เห็นออกมาขายแค่ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์เท่านั้น

อยากอ้างถึงแบรนด์นึง ที่เงียบเหงามานั้น มีรสชาติเดิมๆแล้วนิ่งอยู่นาน เพิ่งจะรู้ตัวเองว่าควรจะพัฒนารสชาติใหม่ๆออกมาบ้าง
แบรนด์ที่ผมพูดถึงนี้ ก็คือ ฮานามิ นั้นเอง จำกันได้ไหมว่าแบรนด์นี้นิ่งเงียบกับรสชาติเดิมๆนานแค่ไหนแล้ว เพิ่งจะเอามาริโอ้ มาโฆษณารสโนริสาหร่ายกับรสกุ้งผัดผงกะหรี่ นี้เอง

สำหรับแบรนด์อื่นๆ ก็เช่นกันครับ การเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ดีครับ ลูกค้าจะรู้สีกถึงความมี Dynamic ของแบรนด์ได้
สิ่งที่มักทำกัน ก็มีดังนี้
1. ออกรสชาติใหม่ๆ อยู่เป็นระยะ
2. ลองปรับเปลี่ยน Size ของแพจเกจจิ้งบ้างก็ดี (ทำให้ sizeเล็กลงเหมาะสำหรับเด็ก หรือซองใหญ่ๆสำหรับกินทั้งครอบครัว)
3. ลองปรับแพจเกจจิ้งเป็นรูปทรงอื่นๆดูบ้าง (จากเคยทำซอง ก็ลองทำเป็นแบบ Bucket หรือ ทรงกระบอกบ้าง)
4. อย่าลืมว่าควร Redesign แพจเกจจิ้งบ้าง อย่าใช้ฉลากเหมือนเดิมติดต่อกันนานจนเกินไป คนจะเบื่อ

และสิ่งสุดท้าย อย่าลืมทำการสื่อสารการตลาดกับลูกค้า ถึงแม้ช่วงเวลานี้จะมีปัญหาเศรษฐกิจ ก็ตาม เราก็สามารถปรับงบประมาณจากที่เคย
ใช้งบไปใน Above the line อย่างเดียว ก็ลองปรับเอาใช้ below the line บ้างก็ดีครับ (ได้เข้าถึงลูกค้าตัวจริงอีกด้วย และประหยัดงบได้มากกว่า above the line หลายเท่าตัวเลย)

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Posted in Food Review Tagged with: , ,

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*

คุณอาจจะใช้ป้ายกำกับและคุณสมบัติHTML: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>

About this blog

นายนิว Blogger Food&Bev, Digital MKT, Social Media MKTทำงานด้านการตลาดออนไลน์

บทความล่าสุด

บทความยอดนิยม

ลิงค์ผู้ให้การสนับสนุน

Easy AdSense by Unreal