แชร์ประสบการณ์เลือกซื้อดิจิตอลทีวี แบบได้ของดีราคาประหยัด

ตอนนี้ใครๆก็ตั้งตารอ การมาของช่อง Digital TV กันทั้งนั้น เพราะหลังจากได้ติดตามข่าวการประมูลช่องทีวีดิจิตอลใหม่ 24 ช่องเมื่อปลายปี 2556 แล้วมีกำหนดจะเริ่มออกอากาศให้ดูกันได้ในเดือน มิถุนายน 2557 ที่จะถึงนี้ ผมว่ามีใครหลายๆคนที่ก็อยากจะรอดูทีวีแบบชัดๆระดับ HD กันทั้งนั้นแหละ ผมก็เป็นคนนึงที่ตั้งตารอ แต่ก็ต้องมาดูเรื่องเครื่องรับทีวีที่บ้านด้วยเหมือนกันว่ารองรับไหม จากข่าวเรารู้ว่า มีอยู่ 2 ทางเลือกที่จะรับชมช่องทีวีดิจิตอลใหม่ได้ คือ

1. ถ้ามีทีวีเดิมอยู่แล้ว (จอตู้, จอแบน ,หรือ LCD LED TV รุ่นที่ซื้อมา2ปีที่ขึ้นไป) ก็ไปหาซื้อตัว Set-Topbox ที่รองรับ Digital TV มาแล้วมาต่อกับทีวีก็ดูได้อยู่แล้ว ) หรือถ้าบ้านใครมีจานดาวเทียมพร้อมกล่องเซ็ทท็อปบ็อกเดิมอยู่แล้ว เดี๋ยวพอระบบการออกอากาศใหม่มา เขาก็จะปรับให้คุณดูได้อยู่แล้วเหมือนกัน

2. ถ้าอยากจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้มันรองรับ DigitalTV เลยในตัวเครื่อง ก็ต้องไปหาซื้อมาใหม่เลยครับ ซึ้งทีวีที่ผลิตตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 เป็นต้นมา ผู้ผลิตเขาจะใส่ชิปเพื่อรองรับระบบการออกอากาศแบบ DVB-T2 มาด้วยทุกตัว ทำให้ทีวีเครื่องใหม่ที่ซื้อมาสามารถดูดิจิตอลทีวี ได้เลย ไม่ต้องต่ออุปกรณ์กล่องอะไรอีกแล้ว

 

อย่างเคสบ้านผม เนื่องจากห่างหายการซื้อทีวีมา 12 ปีแล้ว เจ้า Panasonic จอตู้รุ่น TAU มันช่างทนทานเสียจริงๆ ใช้มานานโข เพิ่งจะมีงอแงบ้างเมื่อปี – 2ปีก่อน ก็เอาไปให้ช่างใกล้บ้านซ่อมไปนิดๆหน่อยๆก็ยังกลับมาใช้งานได้อยู่ แต่ก็อย่างว่า พอการมาของช่องทีวีใหม่ๆ อีก 24 ช่องพร้อมมีช่องระดับ HD อีกตั้งหลายช่อง ถ้ายังใช้ทีวีเก่ามันก็ดูช่อง HD ไม่ได้อยู่ดี เลยเป็นที่มาทำให้ผมต้องมาตัดสินใจโบกมือลาน้องTAU แล้วมาหาซื้อทีวีเครื่องใหม่ ที่เข้ากับยุคสมัยนี้สักหน่อย เลยเป็นที่มาของการมาแชร์ประสบการณ์การซื่้อทีวีดิจิตอล แหล่งของการหาข้อมูลต่างๆ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการซื้อทีวี ทีวีรุ่นไหนดี ฟังค์ชั่นอันนี้คืออะไร ดียังไง ข้อดีข้อเสียของแต่ละแบรนด์ และร้านไหนขายถูกกว่าบ้าง

ผมขอแนะนำเว็บไซต์ที่สมควรต้องรู้จัก ก่อนจะเลือกซื้อทีวีใหม่ก่อนละกัน

1. เว็บ http://www.lcdtvthailand.com/ เว็บนี้ผมได้ยินมานานแหละแต่ยังไม่เคยเข้าไปดูเพราะยังไม่มีความต้องการทีวีเมื่อหลายปีที่ผ่านมา จนกระทั้งตอนนี้ที่ต้องหาข้อมูลในการเลื้อกซื้อทีวี พบว่าเว็บนี้คือขุมสมบัติอันล้ำค่า ของผู้ที่จะต้องการซื้อทีวีเครื่องใหม่จริงๆ เพราะในเว็บมีข่าว มีบทความ ทุกแง่มุมเกี่ยวกับทีวีรุ่นใหม่ๆ เช่นวิธีอ่านสเป็คของทีวี รู้จักคำศัพท์ต่างๆที่ต้องรู้ว่าทีวีรุ่นไหนมีค่า Resolution, Contrast Ratio, Reponse Time, HDMI, มันคืออะไร และยังมีรีวิวทีวีรุ่นต่างๆทั้งเป็นบทความ และเป็นคลิปวีดีโอให้ดูเข้าใจง่ายๆอีก ผมได้ความรู้ใหม่ๆเพียบจากเว็บนี้เลย Reccomend ครับว่าจะซื้อทีวี ต้องเข้าไปอ่านเว็บนี้ก่อน

2. เว็บ Youtube เว็บคลิปวีดีโอ อันนี้ผมมักใช้เข้าไปดูพวกรีวิวทีวีของฝรั่ง หรือพวกคลิป Unboxing แกะกล่องทีวีรุ่นต่างๆที่สนใจ เพียงพิมพ์ชื่อรุ่นทีวี ชื่อแบรนด์ แล้ว +Unboxing ก็จะพบวีดีโอการแกะกล่องทีวีรุ่นต่างๆให้ดูโดยฝรั่ง ก็เสมือนมีคนที่ซื้อทีวีก่อนเรามาเปิดกล่องให้ดูแหละว่า ในกล่องมีอะไรให้บ้าง และมีวิธีประกอบยังไงบ้าง, อีกวีดีโอที่น่าสนใจคือ ClipVDO จากผู้ผลิตทีวีเอง ก็จะมีทั้งโฆษณาและคลิปแนะนำฟังค์ชั่นต่างๆแบบละเอียดเลย ภาพสวยงาม อย่างของผมซื้อทีวีของ LG ก็ได้ดูคลิปสอนฟังชันค์แบบละเอียดๆจากทางแอลจี (เป็นของต่างประเทศนะ)

 

3. เว็บจากผู้ผลิตทีวีเจ้าต่างๆ พอเราเริ่มเลือกได้แล้วว่าอยากได้ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร ก็แนะนำให้เข้าไปที่ Official Website ของแบรนด์นั้นๆเพื่ออ่านฟังค์ชั่นการทำงานต่างๆของทีวีรุ่นที่หมายปองไว้แบบละเอียดๆได้เลย (ส่วนตัวผมเป็นคนที่ต้องหาข้อมูลเองแบบละเอียดๆก่อนจะซื้อของที่ราคาเกินหมื่นอยู่แล้วนะครับ แต่ถ้าคุณผู้อ่านไม่ซีเรียสมากนัก ก็ดูผ่านๆก็ได้)

4. เว็บ Pantip.com เว็บบอร์ดสามัญประจำชาติไทย มีทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ สำหรับพันทิป ผมมักจะเข้าไปอ่านความคิดเห็นของคนอื่นๆต่อรุ่นทีวีที่กำลังสนใจ ลองใช้ระบบ SmartSearchในพันทิปเพื่อหากระทู้ที่กำลังพูดถึงรุ่นทีวีที่เรากำลังสนใจอยู่ ผมได้ประโยชน์เยอะเลยจากเว็บนี้ อ่านความคิดเห็นของคนอื่นๆที่กำลังจะซื้อทีวีเหมือนเราว่าเขาพิจารณาอะไรบ้าง จะมีกระทู้หลายแบบเช่น ให้เปรียบเทียบทีวี 2 แบรนด์2รุ่น ว่ารุ่นไหนดีกว่ากัน ก็จะมีทั้งกูรู และกูไม่รู มาตอบมากมาย บางทีก็อาจจะเจอคนที่เคยซื้อทีวีรุ่นนั้นไปแล้วมาแชร์ให้ฟังว่า ใช้แล้วดีไหม รู้สีกยังไง เป็นเว็บอรรถประโยชน์ที่น่าสนใจ และให้แนวโน้มในการเลือกรุ่นทีวีได้ดีเหมือนกัน

ระหว่างนี้ ผมแนะนำให้ลองไปร้านขายทีวีจริงๆด้วยนะครับ ไปลองจับของจริงๆ ไปดูการแสดงภาพ ไปคุยกับเซลล์ของแต่ละยี่ห้อ คุยๆกันเยอะๆ สงสัยตรงไหนก็ถามให้หมด อย่างของผมก็ไปยืนดูตาม BigC, Tesco ,Powerbuy อะไรงี้อยู่ 2-3 shop ดูรุ่น ดูราคา ลองกดรีโมตเล่นดูฟังค์ชั่นต่างๆไปด้วย (แต่แนะนำว่าอย่างเพิ่งตัดสินใจซื้อครับ กลับมาไตร่ตรองที่บ้านอีก 2 รอบก่อน)

5. พอเราได้รุ่นทีวีที่น่าสนใจแล้ว อาจจะ 2-3 Model ก็แนะนำเว็บนี้ครับ http://www.priceza.com/ เว็บเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ สำหรับผมเว็บนี้มีประโยชน์มาก เพราะจะรวบรวมราคาสินค้ารุ่นที่เราสนใจ แสดงลิสต์ออกมาให้เห็นว่ามีร้านไหนขายในราคาเท่าไรบ้าง ร้านไหนขายถูกที่สุด เพราะตอนไปดูของจากช็อปจริงๆตามห้างราคาที่แสดงไว้ก็ยังสูงอยู่ครับ (เขาว่ากันว่าร้านในห้าง ราคามักอยู่ในมาตราฐานเสมอ คือยังสูงอยู่) แนะนำให้ไปซื้อของจาก (ร้านนอก) หรือร้านค้านอกห้างซึ้งราคาทีวีรุ่นเดียวกันมักจะตั้งราคาต่ำกว่า บางทีต่อรองได้อีกด้วย บางร้านจัดส่งฟรีด้วย ร้านค้าในเว็บ Priceza.com ส่วนใหญ่ก็มีหน้าร้านด้วย และก็ขายออนไลน์ด้วย ทางเว็บ Priceza เขาจะมีลิสต์มาให้ดูเลยว่าร้านไหนขายราคาเท่าไร จัดส่งฟรีไหม หรือจัดส่งฟรีแบบมีเงื่อนไข ชำระเงินด้วยวิธีไหนได้บ้าง จ่ายเงินเมื่อได้ของ จ่ายผ่านบัตรเครดิต จ่ายATM  สรุปเว็บนี้ทำให้ผมประหยัดตังค์ได้อีกเยอะ พอผมมั่นใจว่าจะเอาทีวีรุ่นนี้แล้ว ก็แค่เลือกว่าจะซื้อจากร้านไหนเท่านั้น (ยังไงสินค้าก็ผลิตมาจากผู้ผลิตเจ้าเดียวกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าร้านใดจะตั้งราคาขายเท่าไรจะเอากำไรมากหรือน้อย หรือมี Offer อย่างอื่นเพิ่มขึ้นมาเพื่อดึงดูดลูกค้ามากกว่ากันเท่านั้น)

6. กรณีคุณเลือกซื้อจากเว็บขายสินค้าออนไลน์บางเว็บที่ค่อนข้างใหญ่หน่อย เขาอาจจะมีช่องให้กรอก Discount Code เพื่อลดราคาลงไปอีก ผมขอแนะนำเว็บนี้ http://www.sabuyjaithailand.com/coupon/ ยกตัวอย่างผมซื้อทีวีจากเว็บ Lazada พอถึงขั้นตอนการจ่ายตังค์มันจะมีช่องให้กรอกโค้ดส่วนลด ก็เข้ามาหา Code จากเว็บนี้แหละ แต่ละเดือนจะมีโปรส่วนลดแตกต่างกันไป ซึ้งทำให้เราได้ประหยัดตังค์อีกนิดนึง

ทั้งหมดนี้คือเว็บต่างๆ ที่ผมใช้ดูข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกซื้อทีวีเครื่องใหม่ครับ หวังว่าน่าจะได้ช่วยเหลือทุกท่านที่กำลังจะมองหาซื้อทีวีใหม่นะครับ

สุดท้ายผมตั้งงบประมาณไว้ที่ไม่เกิน 20000 บาท เลือกหลายตัวจนมาได้ LG LEDTV 42 นิ้ว รุ่น42LA623T (SmartTV+DigitalTV+Cinema 3D)

ในราคาที่จ่ายไป 19,070 บาท (ราคา ณ วันที่ 5/2/57) ซึ้งราคา Official จากเว็บ LG อยู่ที่ 24990 บาท ตอนไปดูจากร้านใน BigC , Powerbuy ก็ราคาอยู่ที่ 23990 บาท ถือว่าประหยัดเงินไปได้กว่า 4-5 พันบาทเลยทีเดียว

 

Random Posts

Posted in เรื่องอยากเล่า Tagged with: , ,

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*

คุณอาจจะใช้ป้ายกำกับและคุณสมบัติHTML: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>

About this blog

นายนิว Blogger Food&Bev, Digital MKT, Social Media MKTทำงานด้านการตลาดออนไลน์

บทความล่าสุด

บทความยอดนิยม

Easy AdSense by Unreal