เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 20 กุมภาพันธ์ 2553 ผมได้เข้าร่วมงานมีทติ้งประจำเดือนของสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆคือ สมาคมเว็บมาสเตอร์ไทย นั้นเอง ผมสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมนี้ได้1ปีกว่าแล้ว ตั้งแต่ออกจากงานประจำมาเมื่อปลายปี 51 และก็ได้เข้าร่วมงานประชุมของสมาคมต่อเนื่องแทบทุกครั้ง ถือได้ว่าความรู้ต่างๆที่ได้จากงานนี้ ช่วยผมเยอะในการทำงาน และจุดประกายไอเดียการทำงาน Freelance ของผมเลยก็ว่าได้ เข้าเรื่องเลยดีกว่า
งานมีทติ้งครั้งนี้หัวข้อคือ “เทคนิคหางานและหาคนทำงานในสายงาน IT” ในงานมี อ.ศุภเดช แห่งรายการแบไต๋ไฮเทคเป็น Moderator และมีวิทยากรอีก 3 ท่านได้แก่
คุณสมยศ อุดมนิโลบล Channel Manager บ. 3Com ประเทศไทย
คุณกล้า ตั้งสุวรรณ (หัวหน้าฝ่ายการตลาด บ. โธธ มีเดีย/ผู้ก่อตั้ง, พิธีกร รายการ duocore.tv และสื่อออนไลน์อื่นๆอีกมากมาย
คุณลวิตา ผิวงาม Team Leader – Adecco Engineering & IT Adecco Phaholyothin Recruitment Limited
ในงานมีคุยกันหลายประเด็น แต่ที่ผมพอจะจับใจความได้คร่าวๆมีดังนี้
- ว่าด้วยเรื่อง Resume เขียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดจะดีที่สุด ทำให้ดู Professional มากกว่า แต่คำศัพท์บางเรื่องที่เป็นคำศัพท์เฉพาะทาง หรือเรื่องที่คนทั่วไปเข้าใจยาก หากวงเล็บภาษาไทยมาด้วยก็จะดี มีพีวิทยากรจาก 7-eleven บอกว่าบางครั้ง HRตำแหน่งระดับล่างๆ ได้รับหน้าที่ Filter Resume เจอศัพท์ยากๆมากเข้าก็งงได้เหมือนกัน ฉะนั้น ภาษาอังกฤษนั้น A Must แต่ควรมีภาษไทยไว้เป็นทางเลือกให้ด้วย
- Resume ใส่ข้อมูลพื้นฐานแล้ว ต้องใส่รายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆด้วย เช่นหากเคย Manage โปรเจ็คอะไรมา ก็ลงรายละเอียดไว้ว่าผลลัพธ์เป็นยังไง ทำให้บริษัทเติบโตยังไงบ้าง
- ผลงานต่างๆที่เคยทำมา ถ้ารวบรวมเป็น Portfolio ไว้จะดีมาก เช่นผลงานการดีไซท์ ไฟล์งานโปรเจ็คต่างๆ ที่เคยทำไว้บริษัทเก่า อย่าลืมก็อบปี้เก็บไว้ด้วย ไฟล์งานดีไซท์หรือรูปภาพงานบางอย่างสามารถโชร์ไว้บนเว็บแชร์ริ่งต่างได้ ก็ควรอัพโหลดขึ้นไปด้วย เพราะจะมีประโยชน์มากหากนายจ้างอยากดูผลงาน
- HR บริษัทต่างๆ รวมถึงบริษัทประเภท Head Hunter วันๆมีresume ส่งมาเยอะมากๆ เป็นร้อยๆฉบับต่อวัน ฉะนั้นทำยังไงก็ได้ให้ เรซูเม่ของเราดูโดดเด่นให้มากที่สุด อย่าบอกเพียงแค่ว่าคุณทำอะไรได้บ้าง แต่ควรบอกรายละเอียดว่าผลงานที่คุณทำ ทำให้เกิดผลดียังไงต่อบริษัทบ้าง ถ้าแสดงเป็นตัวเลขได้จะยิ่งดี ใส่รูปภาพเข้าไปด้วย
- คุณกล้า Duocore บอกว่าเด็กอเมริกันบางคน จะไม่สมัครงานตาม Skill Base หรือความรู้ตรงตามที่ตัวเองจบมา แต่จะสมัครงานตาม Talent Base หรืองานที่ตัวเองมีความสามารถพิเศษในการทำงานนั้นแทน
- Resume ควรพกติดตัวไว้เสมอ(หากว่าคุณกำลังหางานอยู่) เตรียมพร้อมปรินท์เซรูเม่ฉบับสมบุรณ์ของตัวเอง และพก FlashDrive ที่มีไฟล์เรซูเม่ไว้หาก HRต้องการในรูปแบบไฟล์
- การสมัครงานมี 3ช่องทางหลักๆ คือ
- สมัครตรงกับ HR บริษัทนั้นๆ หรือตามเว็บหางาน
- สมัครงานผ่านบริษัทประเภท Head Hunter
- ใช้ Connection สายสัมพันธ์กับคนในบริษัทนั้นๆ(หากมี) จะเป็นเส้นทางเสมือน ByPass ที่ดีมากๆ ไม่ต้องผ่านการคัดกรอง จาก HR ขั้น1 ขั้น2 เลย
- เวลาสัมภาษณ์งาน สำคัญมากคืออย่าโกหก หากคุณเจอคำถามลองเชิง เกี่ยวกับงานคุณ หากถูกถามว่าคุณทำอันนี้เป็นไหม หากตอบว่าเป็น(แต่จริงๆทำไม่เป็น) แล้วโดนให้ลอง Testสดๆ ถ้าคุณโกหกว่าทำได้ คุณจะแย่แน่ และถูกมองในแง่ลบด้วยซะอีก ฉะนั้นแนะนำว่า ทักษะไหนหรือเรื่องอะไรที่เราทำไม่เป็น ก็บอกตามตรงไปว่า ยังไม่เคยทำครับ หรือยังทำไม่เป็น แต่คิดว่าน่าจะศึกษาเรียนรู้ได้ในระยะเวลา…..เดือนครับ อะไรประมาณนี้ จะดูดีกว่า
- HR ในอนาคต จะใช้ Google ตรวจสอบประวัติผู้สมัครงานมากขึ้น และคุณจะเป็นยังไงหาก มีรูปกำลังเมาแฮงค์ไม่รู้เรื่องอยู่ใน hi5 หรือ Facebook ต่อไปในอนาคต HR จะใช้คุณสมบัติของ Social Media มากขึ้น ตรวจสอบได้ว่าคุณเป็นคนยังไง เคยทำอะไรไว้บ้าง ไลต์สไตล์คุณเป็นยังไง ถ้ามีข้อมูลด้านดีๆเช่น เคยเป็นวิทยากร เคยเป็นอาสาสมัคร ช่วยงานชมรม สมาคมอะไรต่างๆแล้วมีหลักฐานแสดงในเว็บเหล่านั้น ก็จะช่วยเสริมการได้งานของคุณมาก แต่ถ้าไปเจอรูปประท้วง เดินขบวน หรือรูปในแง่ลบ คุณก็จะถูกมองแง่ลบด้วยเช่นกัน
- Facebook และ Twitter จะเชื่อมโยงกับชีวิตคนเรามากขึ้น อนาคตคนเราจะรู้จักกันในFacebook กับ Twitter ก่อนที่จะได้รู้จักกันจริงๆ เจอหน้ากันจริงๆ ฉะนั้น You are what you Tweet
- การทำการบ้านก่อนไปสัมภาษณ์ที่บริษัทนั้นๆ เป็นเรื่องสำคัญมาก ก่อนไปสัมภาษณ์ควรหาข้อมูลรายละเอียดของบริษัทไว้เยอะๆ ขายอะไรบ้าง ให้บริการยังไงบ้าง ผู้บริหารเป็นใคร มีกี่คน และควรจะรู้รายละเอียดเชิงลึก ในสายงานที่คุณจะสมัครไว้ด้วย
- คุณกล้า Duocore บอกว่าเคยมีบางครั้งให้ผู้สมัครตำแหน่ง โปรแกรมเมอร์ เอางานไปทำเลย 1 job เล็กๆ ให้ไปเขียนโปรแกรมมาอันหนึ่งตามสั่ง ระยะเวลา1สัปดาห์ แล้วเอาผลงานมาดู หากยอมรับได้ก็คุยกันต่อ
- บางตำแหน่งงาน ถามสั้นๆว่า งานอดิเรกชอบทำอะไร หากงานอดิเรกตรงกับความต้องการกับตำแหน่งนั้นก็รับเช่นกัน เช่นรับตำแหน่ง Social marketer แล้วคนสมัครบอกว่า งานอดิเรกก็ชอบอยู่กับ Facebook Twitter รู้ว่าจะต่อยอดธุรกิจยังไงจาก Social เหล่านี้ ชอบเล่น ชอบลองเว็บ 2.0 ใหม่ๆเสมอ อย่างงี้ก็เข้าทางเช่นกัน
- แนะนำเว็บ Linkedin.com สำหรับคนหางาน เว็บนี้เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เป็นเหมือนการฝากข้อมูล resume ไว้ ใส่ประสบการณ์ต่างๆที่ตัวเองมี ความสามารถต่างๆที่ตัวเองมี แต่ข้อดีคือมันเป็นเหมือนเว็บ Social network ที่คนอื่นๆสามารถมาใส่ข้อมูล Reference ให้เราได้ เหมือนเป็นการยืนยันว่าเราเป็นคนยังไง มีความสามารถด้านไหนจริง ซึ่งจะดูน่าเชื่อถือมากขึ้น หากมีคนมาเชื่อมโยงและคอย Reference เรามากขึ้น อนาคต HR ไทยก็จะใช้ข้อมูลจากเว็บนี้มากขึ้นเช่นกัน
- ต่อไป บริษัทจะเป็น Global มากขึ้น จะไม่มีข้อจำกัดด้านขอบเขตของประเทศ จะไม่มีฝ่ายจัดซื้อประจำประเทศไทย ฝ่ายโปรแกรมเมอร์ของประเทศไทย แต่อนาคตบริษัทหนึ่งๆ จะมีฝ่ายต่างๆกระจายอยู่ทั่วโลก เช่นฝ่ายจัดซื้ออยู่มาเลเซีย โปรแกรมเมอร์อยู่อินเดีย Callcenter อยู่สิงคโปร์ ฉะนั้นต่อไป เราจะไม่ได้แข่งกันหางานเฉพาะคนในประเทศอีกต่อไปแล้ว อนาคตเราจะแข่งกันหางานจากคนผู้สมัครงานจากทั่วโลก คุณสมยศ จาก 3M บอกว่าและที่น่ากลัวมากคือคนจากเวียดนาม คือคู่แข่งที่น่ากลัวของคนไทย เพราะเป็นคนขยันและฉลาด ในขณะที่ค่าจ้างต่ำกว่าคนไทย
- ทาง Adecco บอกว่าทางบริษัท มีการจัดทำตารางค่าจ้างของแต่ละตำแหน่งงาน ในแต่ละอุตสาหกรรมไว้ สามารถเข้าไปดาวโหลดได้จากเว็บ www.Adecco.co.th
เขียนโดย เดวิช กลิ่นอดุง
ใส่ความเห็น